ห้องที่ ๑๙ : พระเทพกระวี


          ห้ากระษัตริยเสดจข้ามเฉนียนชล
ถึงฝั่งกับพวกพหลคับขั้ง
ชนนีเสด็จเนาบนรถรีบ ยาตรแฮ
ลุบริเวณชฎิลยั้งอยุดพ้องพลพฤนทร์
          ทัพขั้งนอกเฃตรด้าวกุฎี
พระพรตเชิญชนนีเสด็จเต้า
สองดาบศนำวิถีสี่กษัตริย์ จรแฮ
ถึงถิ่นภารทวาชเข้านบน้อมนักธรรม์
          นักพรตถามว่าไท้ราชถวัลย์
ไฉนผนวชล่ะขอบขันธ์เฃตรกว้าง
พระพรตบอกสิ้นสรรพ์เหตุกลับ ถามแฮ
ทราบถิ่นโปรดแนะบ้างทานแจ้งเธอครวญ
          ดาบศเหนพระเศ้ราสงสาร
ทูลว่าจะพาหลานสู่ไท้
ชวนสองพระอาจาริย์นำกษัตริย์ ไปเฮย
ถึงกุฎิ์ชฎิลต่างไหว้กฤษณ์ยั้งไหนถาม
          สรภังค์ดาบศแจ้งจริงไข
สามกษัตริย์เนาเฃตรไศลพนัศด้าว
นามสัตกูฎเชิญไปตาจัก นำเฮย
นักพวตสี่นำท้าวเสด็จเข้าไพรเขียว
          พวกดาบศอยู่เบื้องเชิงคิรี
เหนหมู่พหลหวาดหนีวุ่นว้า
สวนพระลักษณ์เสดจลีลาศเสาะ ผลแฮ
ยลพระพรตยกพยุหกล้าคิดแค้นปลองศิลป์
          ปางพระรามสดับก้องโกลา หลแฮ
ตระหนักศรอนุชารีบเต้า
ตรัสถามทราบกิจจาตามเหตุ ทูลเฮย
ปรามพระลักษณ์อยุดเข้ากุฎิ์ทั้งสององค์
          สรภังค์ดาบศทั้งสามมุนี
นำเสดจดลกุฎีกฤษณไท้
พักพลร่มเฌอคิรีนอกเฃตร
กษัตริย์สี่เสดจใกล้วิศณุแล้วโศกศัลย์
          พระรามยลอนุชเศร้ากำสรด
เกรงกนิฐชีพจักปลดกอดไว้
ห้ากษัตริย์ต่างรันทดครวญคร่ำ
คลายโศกถามถึงไท้ชนกเศ้ราฤๅเกษม
          พระพรตทูลแต่ต้นจนจบ ความแฮ
บิตเรศโศกปรารภเชษฐเจ้า
จากเวียงพระโศกสยบจนชีพ ดับแฮ
สามกษัตริย์ทราบโศกเศร้าขัติยห้าวิสัญญี
          สุมันตันเหนรีบเฝ้าพระชนนี ทูลเฮย
ทราบเหตุจึ่งเสดจลีลาศเร้า
ถึงกลับโศกทเวศทวีสยบอีก กำนันแฮ
นักพรตมาตยหมอเข้าช่วยแก้พลันหาย
          ฟื้นองค์พงษขัติยพร้อมเหนกัน
รามลักษณอรรคเรศอัญชลิตน้อม
มาตุรงค์ท่านรำพรรณ์เชิญเสดจ กลับนา
กฤษณรักษรับสัตยซ้อมมั่นแล้วฤๅคืน
          ไกยเกษีกล่าวอ้อนวอนขมา โทษแฮ
เชิญพิศณุกลับภาราอย่างกี้
พระตรัสมั่นสัตยาห่อนรับ คำเฮย
จักรักษาสัตย์ชี้เช่นไท้ไอยกา
          พระวสิฐสวามิตรได้สดับตรัส
เหนพระรามอ้างสัตย์มั่นถ้อย
ซักเรื่องขัติยวัตรครองอยุทธ เพรงแฮ
พระพรตทูลฃอคล้อยอยู่ด้วยองค์นรายน์
          พระจักรีทฤษดิน้องโศกศัลย
กอดกนิฐจาบัลยพร่ำพร้อง
อย่าเทวศกลับเฃตรขันธ์ผดุงราษฎ์ เทิญพ่อ
พระพรตฟังยิ่งร้องร่ำไห้โหยครวญ
          ฝ่ายรุกขเทพยสดับถ้อยเชิญนารายน์
อมรหมู่แสดงกายเยี่ยมหน้า
บังคับพระพรตคลายเคลื่อนทัพ กลับแฮ
คืนปกครองไพร่ฟ้ากฤษณเอื้อนตามอมร
          น้องนรายน์สดับซ้ำโศกศัลย์
ดังถูกอาวุธฟันหม่นไหม้
จึ่งทูลสนองพระบัญชาพระ พี่นา
ขอคู่ฉลองบาทไท้เพื่อไว้แทนองค์
          ปางพระราเมศรเอื้อนอรรถแถลง
จำจักเดินพนัศแขวงปราบเสี้ยน
ฉลองบาทคู่ปทานแสดงความรักษ อนุชนา
ห้ากษัตริย์ต่างโศกเพี้ยนผัดยั้งอาศรม
          ฝ่ายสี่นักสิทธิแจ้งเหลือทาน ทัดนา
อวยสวัสดิแล้วคืนสถานอยู่ยั้ง
สองกษัตริยละพรตกาญจนเครื่อง ทรงแฮ
เลิกทัพกลับพร้อมทั้งมาตุไท้สามองค์
          ครั้นถึงปลายเฃตรด้าวอยุทธยา นครเอย
ให้อยุดสร้างภาราที่นั้น
พระพรตสั่งอนุชาเชิญชเนติก์ สามเฮย
กลับบุเรศเธอสถิตยหั้นพักถ้าอวะตาร
          กล่าวถึงพิราพกล้าฤทธิมหันต์
เนาถิ่นเขาอัศกรรณอยาบช้า
มีสวนปลูกพวาสุวรรณพฤกษหนึ่ง ปลาดพ่อ
กำชับบ่าวอสุรถ้าสัตวล้ำแดนกุม
          สั่งเสร็จรเหจเหาะขึ้นคัคณานต์
แผลงฤทธิบังสุริยฉานมืดฟ้า
ดลไตรทศเทวสฐานหยอกสุ รางค์เฮย
เหนเครื่องประดับคว้าแย่งได้กลับแดน
          ป่างพระรามกับด้วยอนุชา ธิราชแฮ
อรรคเรศองค์สีดาพรตสร้าง
หฤไทยขุ่นทรงอาไลยพระ ชนกเอย
จึ่งเสดจมายังข้างนัคไหว้ลาชฎิล
          ฝ่ายดาบศใหญ่น้อยฟังคำ ลาแฮ
ในจิตรอาไลยกำสรดไห้
อวยพรเสรจพระดำเนินจาก ไศลเฮย
ถึงกุฎอิสิทธิ์หนึ่งไท้เสด็จเข้าวันทา
          เหนดาบศอยู่ด้วยนางชฎิล
แคลงจิตรถามนามมุนินท์เผ่าพ้อง
นักพรตตอบตามระบิลสุทัศชื่อ กษัตริย์พ่อ
กลับซักพระพี่น้องอีกทั้งอนงค์ไฉน
          พระฟังถามจึ่งแจ้งเสรจความ หลังนา
นักสิทธิชวนอยู่ตามรักท้าว
เธอตอบว่าใกล้คามเฃตรอยุทธ ยาพ่อ
ขอกราบลาไปด้าวถิ่นให้ไกลนคร
          ดาบศสุดขัดได้อวยพร
จงปัจจามิตรหยอนพ่ายแพ้
นางชฎิลกับบังอรอรรคเรศ เสน่ห์แฮ
สรวมสวัสดิทุกขเว้นแท้เสรจแล้วเธอลา
          สามกระษัตริย์จากพ้นอาศรม สุทัศแฮ
ลุฝั่งชลพักชมร่มไม้
จักข้ามนึกปรารมภ์เรือขัด สนนา
รุกขเทพยนิมิตรเรือให้เสดจข้ามคงคา

จบห้องที่ ๑๙


  เนื้อความกล่าวถึงขบวนเสด็จข้ามแม่น้ำสะโตงเดินทางไปจนถึงอาศรมพระฤษีภารทวาช พระฤษีภารทวาชทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็นำกษัตริย์ทั้งห้าและพระฤษีทั้งสองไปยังอาศรมพระฤษีสรภังค พระฤษีสรภังคแจ้งว่าพระราม พระลักษณ์ และนางสีดา พำนักอยู่ที่เขาสัตกูฏ จึงนำขบวนเสด็จไปยังเขาสัตกูฏ บรรดาพระฤษีที่อยู่ที่เชิงเขาเห็นขบวนเสด็จ ก็ตกใจ วิ่งหนีกันวุ่นวาย พระลักษณ์กำลังหาผลาหารอยู่ เห็นพระพรตประทับอยู่ในขบวน ก็เคืองแค้น จึงขึ้นศรลองสายเสียงดังสนั่น พระรามได้ยินเสียงศรก็รีบเสด็จมา เมื่อทราบความจึงห้ามพระลักษณ์แล้วพาเสด็จเข้าอาศรม เมื่อขบวนเสด็จพักอยู่นอกเขตอาศรมแล้ว พระฤษีสรภังคและพระฤษีทั้งสามนำพระพรตและพระสัตรุดเสด็จเข้าไปพบพระรามในอาศรม พระรามตรัสถามถึงท้าวทธรฐ พระพรตทูลว่าท้าวทธรฐสิ้นพระชนม์แล้ว พระราม พระลักษณ์ และนางสีดา ได้ฟังก็เศร้าโศกจนสิ้นสติ ทำให้เหล่ากษัตริย์ที่มาโศกสงสารจนสิ้นสติไปด้วย เมื่อพระฤษี อำมาตย์ และหมอได้แก้ไขจนฟื้นคืนสติแล้ว นางเกาสุริยาก็ขอให้พระรามเสด็จกลับกรุงอยุธยา พระรามทูลว่ารับสัตย์จากพระบิดาแล้วจะไม่กลับไป นางไกยเกษีเข้าไปขอขมาโทษพระรามและขอให้กลับไปครองกรุงอยุธยา พระรามบอกว่าจะรักษาคำสัตย์เช่นเดียวกับพระอัยกา พระฤษีวสิฐและพระฤษีสวามิตรจึงกล่าวถึงขัติยวัตรของกษัตริย์กรุงอยุธยาองค์ก่อน ๆ และขอให้พระรามกลับไปครองกรุงอยุธยา พระรามก็ขอรักษาสัตย์ไม่กลับไป พระพรตจึงทูลขออยู่กับพระรามที่อาศรม พระรามให้พระพรตกลับไปครองกรุงอยุธยา แต่พระพรตไม่ยอม รุกขเทวดาจึงปรากฏร่างสั่งให้พระพรตกลับ พระพรตจำใจยอมและทูลขอฉลองพระบาทของพระรามกลับไปแทนองค์ จากนั้นพระพรตและพระสัตรุดลาพรต แล้วยกทัพกลับไปถึงชายเขตแดนกรุงอยุธยา พระพรตให้สร้างเมืองประทับคอยพระราม และสั่งให้พระสัตรุดพาพระชนนีทั้งสามเข้ากรุงอยุธยา
  กล่าวถึงยักษ์พิราพมีฤทธิ์เดชกล้าแข็งอยู่ที่เขาอัศกรรณ มีสวนต้นพวาทอง สั่งให้บริวารเฝ้าคอยจับสัตว์ที่ล่วงล้ำเข้ามา สั่งเสร็จเหาะขึ้นไปหยอกล้อนางฟ้าบนสวรรค์ เห็นเครื่องประดับของนางฟ้าก็แย่งเอากลับมาที่พำนัก
  พระราม พระลักษณ์ และนางสีดา มีพระทัยหม่นหมองอาลัยถึงพระชนกมิได้จำเริญภาวนาจึงลาบรรดาพระฤษี ออกเดินทางเข้าไปในป่าต่อไป ระหว่างทางพบพระสุทัศน์และมเหสีซึ่งบวชเป็นฤษีทั้งสององค์ พระฤษีสุทัศน์ชวนกษัตริย์ทั้งสามให้พำนักบำเพ็ญพรตอยู่ด้วยกัน แต่พระรามขอไปอยู่ให้ไกลกรุงอยุธยากว่านี้ แล้วทูลลาเดินทางต่อไปจนถึงแม่น้ำ รุกขเทวดาจึงเนรมิตเรือให้เสด็จข้ามไป

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ทัพยั้งนอกเขตรด้าว”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “นักพรตสี่นำท้าว”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “บิตุเรศโศกปรารภ”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “สลบอีก กำนันแฮ”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ถึงกุฎิสิทธิ์หนึ่งไท้”